Note : บล็อกนี้เขียนตั้งแต่ช่วงอยู่ปี 1.. ย้อนอ่านแล้วสนุกดี พลังเยอะมากช่วงนั้น เลยเอามารีรันในบล็อกใหม่อีกรอบ /ฮา
.
824 เป็นหนังสือวรรณกรรมไทยเล่มหนึ่งที่ยอมรับเลยว่าอ่านแล้ว วางแทบไม่ลงเลยทีเดียว เพราะเป็นหนังสือที่สนุก สามารถโยงตัวละครให้มีความผูกพันธ์กันในแต่ละเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี.. อีกทั้งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาที่นำมาออกข้อสอบกลางภาคของวิชาที่เคยเรียนปี 1 ด้วย
เลยขอกลับมาย้อนลำลึกอีกสักครั้งหนึ่งแล้วบันทึกเรื่องราวที่เคยอ่านไว้สักหน่อย 🙂
.
.
หนังสือ “824” แต่งโดย งามพรรณ เวชชาชีวะ นักเขียนรางวัลซีไรท์ และเจ้าของบทประพันธ์ ความสุขของกะทิ ที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว..
โดยเรื่อง 824 นี้นั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงของ 8 ตัวละคร ที่อาศัยอยู่ที่ซอยสุขสบาย.. ทุกคนมีภูมิหลัง และเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ต้องมาพบเจอกันพร้อความวุ่นวายและความสนุกสนานที่เกิดขึ้น.. อ่านแล้ววางแทบไม่ลงเลยทีเดียว และเป็นอีกหนึ่งที่ผมชอบอีกเล่มเลยทีเดียว..
อยากรู้ไหมว่าวุ่นวายขนาดไหน.. ดูได้จากแผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครนี้สิ :v
.

.
เอ่อ.. วุ่นวายมากกก…
ยังไงใครยังไม่ได้ผ่าน อยากเชิญชวนให้ลองไปอ่านดูนะครับ ประทับใจและสนุกแน่นอน 🙂
เนื่องจากว่าตอนก่อนสอบนั้น นึกสนุก เลยย่อเรื่องทั้งหมดลงในทวิตเตอร์แบ่งเป็นพาร์ทๆ เพื่อสรุปความเข้าใจของตัวเอง และสามารถมาอ่านก่อนสอบได้แบบรวดเร็ว เลยขอรวบรวมทีตทั้งหมด 108 ทวีตมาสรุปให้อ่านตามนี้เลยครับ 😉
.
สรุป 824 จาก 108 ทวีต (แก้ไขคำผิดแล้วนะ)
.
- Ep.1 : ซ.อยู่สบาย ไม่กว้างขวาง คนไม่เยอะ แบ่งเป็นพวกโน้นที่เป็นถ.คอนกรีต กับพวกโน้นที่ถ.เป็นหลุม
เล่าเรื่องของลุงสุขกับป้าแสงที่อยู่ท้ายซ. ลุงสุขหนุ่มกว่าป้าแสง ทุกจันทร์แรกจะเดินจับมือไปที่ป้ายรถเมล์ เดินกลาง ซ. ไม่หลบซ้ายขวา ไม่รีบ ว่ากันว่าที่ดินในซ.เคยเป็นของทั้งสอง
.
- Ep.2 : ลุงต่อ ตามจริงชื่อเก่ง แต่บ้านแกอยู่ระหว่างคอนกรีตกับลาดยาง มีลูกชายอยู่สิงคโปร์ มีแคร่อยู่หน้าบ้าน ขาไม่เท่ากัน วางไว้กลางรอยต่อ เมาเป็นอาจิน เปิดวิทยุฟังการเมืองแล้ววิจารณ์ แต่ทุกวันนี้ลูกเริ่มไม่ส่งเงิน แกจึงต้องแกล้งว่าลูกยังเลี้ยงดูและมีกินมีใช้ (กับเหล้า) วันไหนที่ลุงสุขป้าแสงเดินมา ลุงต่อจะเข้าบ้านไม่ออกมาจนค่ำ..
วันหนึ่งฟังอภิปรายฯ ลุงสุขป้าแสงเดินมา แกรีบปิดนั่งคุกเข่ากุมเป้าลดสายตาต่ำลง แต่น่าแปลก ถ้าเป็นคนอื่นเดินจะโดนลุงต่อจอมทระนงทักทาย พอลุงสุขกับป้าแสงเดินมาก็จ๋อย.. แต่ลุขสุขป้าแสงก็ไม่มีท่าทางรับรู้อะไรเลย
.
- Ep.3 : มอมแมมเป็นหมาจรจัดตัวหนึ่ง มาที่ศาลเจ้าทุกเช้าและหายไปตอนเย็น เจ๊ศรีจะเอาอาหารมาให้กินตามอารมณ์ของเจ๊จะพาไป มอมแมมมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ฤดูฝน เมื่อก่อนมีเจ้านายชื่อเสมอ แต่เจ้านายตายไปเพราะถูบสิบล้ออัดเข้ากับเสาสะพานขณะขี่ซาเล้งในคืนฝนตกหนัก มันไม่รู้ว่าเสมอตายแล้ว จึงมาที่สะพานทุกเย็น
.
- Ep.4 : “ลูกสาวสวยไม่ได้ครึ่งของแม่เลยนะ.. โตขึ้นคงหาผัวยากแหละ” – แม้ค้าคนหนึ่งกล่าว
มีนา แม่เป็นอดีตเทพส้มโอแต่ได้กับสามีขี้เหร่สุดใจ ผลออกมาคือมีนาไม่สวย แต่ทรวดทรงนั้น ‘อะร้าอร่าม’ และ ‘คับอกคับใจ’ มากนัก.. ด้วยความที่เธอไม่สวยแต่หุ่นดี.. จึงมีผู้ชายมารุมล้อม และยังได้งานเป็นพริตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์อีกด้วย! แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เป็น
มีนาอยากสวมชุดเจ้าสาวยืนกับเจ้าบ่าว ตัดเค้กเหมือนงานแต่งไฮโซ.. เรื่องผู้ชายจึงไม่อยากคิดมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับเล่นตัวจนน่าโดนฉุด
.
- Ep.5 : มิเชล ฝรั่งตาน้ำข้าวที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทย มีความสนใจในไทยแลนด์ออนลี่ ตั้งแต่สักยันต์ยันนวดแผนไทย.. ไปเป็นลูกศิษย์ลูกหาที่วัดตลอด
.
- Ep.6 : ป้าแหวง กะเทยแก่ เป็นช่างเย็บผ้าที่รับเย็บและตัดชุดเอง บางคืนก็ยืนแอบซอกตึกรอเหยื่อ.. บางคืนก็นำชุดที่ตนเองตัดออกไปขาย..
ป้าแหวงมีหลานชื่อวิชา เป็นญาติห่างๆ อุปถัมภ์ตั้งแต่เป็นเด็กจนเป็นพนง.ขายประกัน.. เธอทำท่าทีสงวนความรัก แต่ในใจกับเรียกร้องหาวิชาทุกนาที..
.
- Ep.7 : สันทัด บวชเรียนมาตั้งแต่แม่เสียตอน 15.. เขาหัวดีสอบเปรียญสามประโยคได้ตอนอายุ 18.. คืนหนังฝันเห็นอาทิตย์ขึ้นเหนือวัดพระแก้ว.. สึกซะเลย เพราะตีความว่าจะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่กรุงเทพฯ พอมาถึงก็มีญาติอุปถัมภ์ ให้เป็นยามเปิดปิดประตูห้าง แต่นานไปญาติจะเอาแฟนมาอยู่ด้วยเลยต้องย้ายออกมา ต่อมาสันทัดได้เป็นยามอยู่ บ.จัดอีเวนท์ และมีอาชีพดูดวงเป็นอาชีพเสริม เขาได้ดูดวงตัวเองแล้วพบว่าเนื้อคู่อยู่ไกลจะต้องเดินทาง เลยสมัครเป็นคนส่งเอกสารด้วยเลย!
.
- Ep.8 : แต่เดิม ซ.อยู่เจริญ นี้เป็นตลาดและชุมชนคนจีน เลยมีศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมา แต่เมื่อตลาดย้ายออก ที่ดินถูกเปลี่ยนมือ ศาลเจ้าเลยเป็นสิ่งที่ผิดที่ผิดทางแทน เดิมเฮียกงเป็นคนดูแล เมื่อตายไป เจ๊ศรีเลยดูแลแทน การทำความสะอาดและเปิดปิดประตูอยู่กับอารมณ์ของเจ๊ศรี..
เจ๊ศรีอยู่ไปวันๆ โดยไม่เดือดร้อนอะไร แล้วมีชายชุดดำเข้ามาถ่ายรูปต่างๆ เพราะพบว่านี่คือศาลเจ้าบรรพบุรุษของนายตนเอง หลังจากนั้นจึงมีคนมาบอกว่าจะมีคนมาทำพิธีใหญ่ที่ศาลเจ้า
.
- Ep.9 : 07.00 น. – ลุงสุข อดีตนักลีลาศระดับชาติ.. ป้าแสง อดีตอาจารย์สาว นร.นอกลีลาเท้าไฟ.. กับการกินข้าวเช้า ที่ลุงพูดอะไร ป้าก็จะพูดเป็นคำนั้น..
“..ใช้ชีวิตร่วมกันในรูปแบบใด ก็จะกลายเป็นความทรงจำแสนล้ำค่าของคนหนึ่ง ขณะที่ไม่หลงเหลือตราประทับใดไว้ในความทรงจำของอีกคนเลย..”
.
- Ep.10 : 08.00 น. – มีนาอยู่กับแม่ พ่อหายไปมีแฟนใหม่ แม่ทำงานเป็นหมอนวด.. ถ้าวันนี้มีนาไม่มีสอบ.. คงไม่ลุกจากที่นอนแน่ๆ.. มีนาหยุดที่ศาลเจ้ายกมีไหว้ขอพรให้สอบได้ แล้วเห็นศาลเจ้ากำลังตกแต่ง..
หลังจากนั้นมีนาคงจะไปถึง ร.ร.ไม่ทันแน่ถ้าไม่มีมอไซต์คันหนึ่งจอดหน้าปากซอย
.
- Ep.11 : 09.00 น. – สันทัดไม่ได้ทำท่าพิเศษอะไรเมื่อมาจอดมอไซต์หน้าปากซอย “บังเอิญผ่านมา ตั้งใจจะส่งไปเรียนหนังสือ ไปด้วยกันไหมครับ”
หลังจากส่งที่โรงเรียนเสร็จสันทัดไม่รู้จะกล่าวลายังไง แต่มีนากล่าวบอกว่า เย็นนี้จะเข้าที่บริษัท เพียงเท่านี้สันทัดก็ขี่ไปทำงานด้วยความรู้สึกล่องลอยในอากาศราวปุยนุ่น
.
- Ep.12 : 10.00 น. – มอมแมมไม่มีที่ไป ศาลเจ้าจัดงานอยู่ / ลุงต่อต้องไปธนาคารเลือดเพื่อขายเลือดมาเลี้ยงชีวิต / ลุงต่อเห็นมอมแมมเลยเอาข้าวมาให้
.
- Ep.13 : 11.00 น. – ป้าแหวงนึกถึงเรื่องเมื่อคืน วิชาเข้ามาปรึกษา น้องชายติดหนี้บอล ไม่มีเงินจ่าย เจ้าหนี้มีข้อเสนอสุดท้ายคือส่งของในห่อนี้..
ป้าแหวงจึงเปิดสมุดบัญชี ในบัญชีนั้นเป็นเงินที่ตั้งใจว่าถ้ามีมากพอจะเสกร่างกายให้เป็นหญิงได้.. จะต้องแลกความปรารถนาทั้งชีวิตกับวิชาเชียวหรือ?
.
- Ep.14 : 12.00 น. – มิเชลเกิดอยาทำแผนที่ฉบับตัวเองขึ้นมา เลยไปเรียนขับรถและสอบทำใบขับขี่ แล้วก็มาขับแท็กซี่เพราะจะสำรวจเส้นทางได้ดีที่สุด มิเชลเห็นลุงต่อ เลยจะไปรับ แต่รถเมล์เลี้ยวตัดหน้ารับลุงต่อ มิเชลเลยตามไปจนถึงธนาคารเลือด.. พอลุงต่อออกมา เขาก็พูดว่า “ให้พมไปส่งนะ”
.
- Ep.15 : 13.00 น. – ลุงต่อระบายความในใจกับมิเชล พอจะถึง ซ.อยู่สบาย มีรถเก๋งเปลี่ยนเลนตัดหน้าแท็กซี่ของมิเชล จึงชนเข้ากลางลำ ทำการไกล่เกลี่ยกันอยู่นาน ลุงต่อเลยเชิญเสี่ยนั่งแท็กซี่มิเชลไปส่ง ปลายทางของเสี่ยคือ “ศาลเจ้าในซอยอยู่สบาย” นั่นเอง
.
- Ep.16 : 14.00 น. – หลังจากส่งเสี่ยที่ศาลเจ้าเสร็จ ลุงต่อก็มานั่งที่แคร่ เห็นลุงสุขกับป้าแสงเดินมาพอดี.. พลางคิดถึงวันเก่าๆ.. พี่สาวที่ชวนไปซื้อไอติมในวันนั้น ไม่น่าเชื่อว่าคือหญิงชราคนนี้ คนที่ลุงสุขจูงมือเดินผ่านหน้าไป..
.
- Ep.17 : 15.00 น. – พิธีที่ศาลเจ้าเอิกเกริกพอสมควร เสี่ยชัยมาถึงทันเวลาพอดี (แต่เกือบไม่ทันถ้าไม่ได้มิเชลมาส่ง) โดยเริ่มพิธีกรรม ทำบุญทำทานแจกของ มีการมอบเงินให้ศาลเจ้าแต่เจ๊ศรีแกไม่ยอมมารับ
ลุงสุขและป้าแสงเดินไปที่ป้ายรถเมล์ เรียกแท็กซี่ของมิเชลให้ไปส่ง แต่การจราจรของกรุงเทพ ทำให้มิเชลสถบการจราจรด้วยภาษาฝรั่งเศษ แสงดาวจึงชวนมิเชลคุยกันด้วยภาษาฝรั่งเศษ
.
- Ep.18 : 16.00 น. – ครูกบออกมาต้อนรับสุขวิทย์และแสงดาว สุขวิทย์ช่วยครูกบสอนเด็กเต้นลีลาศ โดยปล่อยให้แสงดาวนั่นรอที่เก้าอี้.. พอหันมาก็ไม่เจอแลัว
เมื่อตามหาพบว่าแสงดาวอยู่กับจรรยา รุ่นน้องสมัยเรียน เธอขอสุขวิทย์ใช้เวลาระบายความรู้สึกผิดต่อแสงดาวส่วนตัว สุขวิทย์มองห่างๆ สุวิทย์เห็นจรรยาพูดกับแสงดาวและร้องไห้ เมื่อสุขวิทย์เดินมา จรรยาพยายามเช็ดน้ำตา มองซองจดหมายให้สุวิทย์ และเดินจากไป
“เมื่อพิษร้ายของความผิดหวังและความอิจฉา นำพาให้เธอกระทำสิ่งที่ทำให้ชายที่เธอรักต้องเจ็บปวดจวนขาดใจ”
.
- Ep.19 : 17.00 น. – สันทัดวิ่งงานกลับไปมาเพราะเจ้านายเขียนผิด ทำให้ต้องรีบส่งงานให้เสร็จเพื่อมารอพบมานีที่จะมาหาเจ้านายของเขาที่ออฟฟิศ เพราะเสี่ย (เจ้านายของเขา) ชอบพริตตี้คนสวยที่ชื่อมีนาเข้าซะแล้ว ส่วนมีนาไม่คิดว่าเสี่ยชอบ เพราะไม่คิดอะไรมาก พี่เป้าสั่งมารับเงินที่นี่ก็มารับ
หลังจากเสร็จภารกิจ มีนาก็ปฏิเสธเสี่ยที่จะไปส่งเพราะเห็นมอไซต์ของสันทัด เสี่ยไม่สนใจนัก ประกอบกับเจ้าเงาะขับรถที่ชนเข้ามาพอดี เสี่ยเลยลงอารมณ์ที่เจ้าเงาะแทน
ย้อนกลับมาที่ซอย.. วิชากลับมาหาพี่แหวง พบว่าพี่แหวงไม่อยู่ห้อง และเขาไม่เห็นถุงกระดาษใบนั้น เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องซะแล้ว!
.
- Ep.20 : 18.00 น. – สุขวิทย์พาแสงดาวกลับบ้าน พลางนึกถึงความหลังครั้งที่เต้นลีลาศกับแสงดาว เพราะแสงดาวเป็นลูกสาวของนายพล จึงไม่กล้าคิดไปไกล และนายพลเป็นหนึ่งในรัฐบาลที่โดนกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่น
สุขวิทย์ทำให้แสงดาวหายเครียดด้วยการเต้นลีลาศ และทำให้รู้แสงดาวรู้ว่าสุวิทย์คิดยังไงกับเธอ
ในวันแข่งขัน แสงดาวปฏิบัติกับสุวิทย์อย่างปกติ แต่แสงดาวไม่ปกติจากข่าวของพ่อ และโดนผู้ชมโห่ฮา ทำให้พลาดชนคู่เต้นอีกคู่ สุขวิทย์ล้มตัวรับ
สุวิทย์รู้สึกตัวที่รพ. หัวกระทบกระเทือน ข้อมือซ้น สะโพกเคลื่อน ตลอดเวลาที่สุวิทย์พักรักษาตัว เขาก็ไม่เคยเห็นแสงดาวมาเยี่ยมเลย แต่จดหมายของจรรยากำลังจะบอกว่าแสงดาวมาเยี่ยมตั้งแต่วันแรกและฝากจดหมายไว้ที่จรรยา จดหมายใช้เวลาเดินทาง 20 ปีกว่าจะมาถึงเขา
.
- Ep.21 : 19.00 – ความมั่นใจป้าแหวงติดลบเมื่อมาโรงพัก ขอเข้าพบผู้กำกับ แต่ไม่มีตำรวจคนไหนสนใจ เลยบุกเข้าไปในห้องผู้กำกับพร้อมอธิบายเรื่องต่างๆ ให้ผู้กำกับฟัง
หลังจากนั้นป้าแหวงโดนสอบสวนเมื่อพบว่าในถุงใบนั้นคือยาเสพติด และประชุมเตรียมการ.. ป้าแหวงคิดว่าถ้าวิชารู้ว่าป้าแหวงจะทำอะไรจะห้ามไหม
.
- Ep.22 : 20.00 น. – เจ๊ศรีดีใจที่งานในวันนีเสร็จสิ้นลง และหวังว่าจะไม่มีใครมาจัดงานอีก จึงปิดศาลเจ้าและไปนอน ไม่ได้นึกห่วงธูปในกระถางสักนิด
แสงดาวเริ่มป่วยเมื่อเธอเป็นครู ทุกคนคิดว่าเป็นอาการวัยทอง ลืมบ่อย เข้าห้องสอนผิด จำตารางสอนไม่ได้ ส่งข้อสอบผิดเวลา กินยาก็ไม่ได้ผล แสงดาวออกมาอยู่กับหลานสาว อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนสุวิทย์ได้ข่าว..
เขาพะวงถึงจดหมายที่ยังไม่ได้เปิด ไม่แน่ใจว่าอยากรู้หรือเปล่า สุวิทย์พบว่าแสงดาวลุกจากเก้าอี้ลำบาก วันนี้กลับลุกขึ้นได้เอง แต่เสียหลักหงายหลัก เก้าอี้พลิกคว่ำ แสงดาวล้มทับ เลือดเปื้อนเสื้อสีขาว แผลที่ขมับหนังเปิดร่นขึ้นไป ทำให้สุขวิทย์ตกใจ ตัดสินใจโทรเรียกรถโรงพยาบาล พร้อมปลอบแสงดาว เขากลัวว่าแสงดาวจะยิ่งสับสนกว่าเดิมหรือเปล่า สุวิทย์นึกโกรธตัวเอง ใจหนึ่งอยากให้รถรพ.มาถึงโดยเร็ว แต่อีกใจหนึ่งอยากหยุดเวลานี้ที่มีแสงดาวในอ้อมแขนตลอดไป
.
- Ep.23 : 21.00 น. – มิเชลซื้อเบียร์ว่าจะไปกินกับลุงต่อ เพราะเหตุการณ์ที่โดนรถเสี่ยชน เถ้าแก่แทบจะไล่ออกมา เขาคงได้ช่วยมนตรีออกค่าซ่อมแน่ๆ
บ้านลุงต่อมือไม่มีแสงไฟ พอมิเชลหันไปพบนันทนาที่รอมีนาอยู่ รถโรงพยาบาลผ่านหน้าทั้งสองไป แสงดาวทำท่าขัดขืนจนสุขวิทย์ต้องมาปลอบจึงยอมไป นันทนาเสนอตัวเฝ้าบ้าน มิเชลเลยพูดคุยบอกว่าจำสุขวิทย์และแสงดาวได้
สันทัดพามีนาซ้อนท้ายมาตั้งแต่ 5 โมง แต่สำนักงานโทรบอกให้ไปเอาของก่อน สันทัดอึดอัดที่จะตอบ แต่มีนาบอกว่าไปด้วยก็ได้ เลยทำให้เขาทั้งสองอยู่ด้วยกันหลายชั่วโมง
หลังจากออกมาจากรับเอกสารก็ใกล้ทุ่ม เริ่มรู้สึกหิวจัด เขาเลี้ยวรถเข้าห้างแถวรังสิตเพื่อกินข้าว เสร็จแล้วมีนาเลยขอตัวเข้าห้องน้ำ แต่ด้วยคิดยาวจึงไปเข้าชั้นบน สันทัดเห็นผู้หญิงร่างใหญ่ยืนอยู่ หญิงคนนั้นเดินเข้ามาทักว่า “มารับของใช่ไหมค่ะ” สันทัดตอบปฏิเสธ เดินออกมารอมีนาที่หน้าบันไดเลื่อน มีนาออกมาเห็นว่านั่นคือป้าแหวง สักพักเกิดเหตุการณ์ชุลมุน มีนาถูกแรงกระแทก สันทัดรับไว้ทัน มีนาตกใจว่าป้าแหวงวิ่งหนีใคร จนตำรวจเข้ามาเชิญไปสอบปากคำในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์
.
- Ep.24 : 22.00 น. – ป้าแหวงวิ่งหนีสุดชีวิตตามแผนที่วางไว้กับตำรวจ โทรนัดแนะกับเพื่อนเพื่อให้มารับที่จุดที่นัดไว้ รัศมีหรืออีหมีคือเพื่อนคนนั้น
ตำรวจมาเคาะประตูที่ห้อง วิชาตกใจคิดว่าป้าแหวงหักหลัง ก่อนถูกตำรวจจับไปจึงพังข้าวของในห้องและด่าทอ.. นั่นคือสภาพห้องที่ป้าแหวงเปิดเจอ
.
- Ep.25 : 23.00 น. – ลุงต่อนั่งมองมอมแมมที่ใต้สะพานลอย หลังจากที่ให้ข้าวเสร็จ ท่าทางของมอมแมมชวนสงสัย ด้วยความอยากรู้เลยนำพาลุงต่อมาที่นี่ มอมแมมเดินไปที่มุมสะพาน ลุงต่อเฝ้ารอมอมแมม จุดบุหรี่ออกมาสูบ ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้าๆ ส่วนมอมแมมรอเสมอเจ้านายของมันที่ไม่มีวันกลับมา
.
- Ep.26 : 24.00 น.- กว่าจะกลับถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่า สุขวิทย์โทรบอกมันทนาให้ปิดบ้านได้เลยเพราะเอากุญแจออกมาด้วย สุขวิทย์ขอบคุณและเกรงใจมันทนา ทุกครั้งมันทนานั้นจะมานวดให้แสงดาว เขาเกิดความคิดจะขอให้มันทนามาช่วยดูแลแสงดาว
สุขวิทย์ทำความสะอาดและพาแสงดาวนอน และเปิดจดหมายอ่าน ในจดหมายบอกเล่าถึงความรู้สึกของแสงดาวที่มีต่อสุขวิทย์ตั้งแต่พบเจอจนวันที่เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น สุขวิทย์ น้ำตาไหลอาบลงแก้ม..
.
- Ep.27 : 01.00 น. – ไม่มีใครรู้ว่าเพลิงเริ่มขึ้นตอนไหน กว่าจะมีคนเห็นและวิ่งออกมา ไฟก็ลุกท่วมศาลเจ้าแล้ว กว่ารถดับเพลิงจะมาถึงไฟก็ลามไปแล้ว
วิชาก้าวลงรถพร้อมตำรวจเจอแม่ที่อยู่ในห้อง ผู้กำกับจึงเข้ามาอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น วิชาเสียใจที่เข้าใจพี่แหวงผิด จึงขอตำรวจมาที่ซอยอยู่สบายเพื่อขอโทษป้าแหวง
“มีคนติดอยู่ชั้นสี่ ยังลงมาไม่ได้” ตายเป็นตายวิชาคิดในใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปในตึกเพื่อช่วยป้าแหวง!
.
- Ep.28 : 02.00 น. – มีนากลับมาแล้ว นันทนาดีใจ มิเชลเห็นว่าคงเป็นเวลาที่แม่ลูกอยู่ด้วยกัน เลยขอตัวออกมา ก่อนจัดการเบียร์กระป๋องย้อมอารมณ์ มิเชลเห็นมีนาและนันทนาเดินไปหาป้าแหวงที่พึ่งกลับ แท็กซี่ที่ลุงสุขและป้าแหวงนั่งผ่านหน้าไป มิเชลจึงเดินกลับขึ้นห้อง หลับสนิทจนไม่รู้ว่าไฟไหม้
มิเชลตื่นและงงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงชะโงกหน้าออกไปดูพบควันและไอร้อนรอบตัว แทนที่จะวิ่งลงบันไดกลับวิ้งเข้าไปคว้ากระเป๋าและหยิบเอกสารสำคัญ รวมทั้งสมุดโน้ตที่จดการสำรวจเส้นทางในกรุงเทพ กว่าจะเก็บครบควันก็หนาจนสำลักอย่างรุนแรง มองไม่เห็นอะไรนอกจากมือของเขาเอง
ขณะที่กำลังฝ่าควันออกมาก็เห็นชายคนหนึ่งวิ่งขึ้นมาพร้อมตะโกนเรียกพี่แหวง มิเชลคว้าแขนได้แล้วบอกว่าป้าแหวงอยู่ตึกนู้น จึงรีบพากันออกมา
.
- Ep.29 : 03.00 น. – ป้าแหวงมาเห็นสภาพห้องเมื่อตอนห้าทุ่มแล้วเข่าอ่อน พบรอยเท้าบนฝาตู้เสื้อผ้าทำให้ป้าแหวงรู้ว่าใครเป็นเจ้าของผลงานชิ้นนี้ ป้าแหวงเก็บห้องด้วยความเจ็บปวด ไม่คิดว่าวิชาจะทำแบบนี้
ป้าแหวงพบเห็นนันทนาและมีนายืนอยู่ ทั้งสองชวนป้าแหวงลงมาแล้วนั่งคุยกัน มันทนารู้เรื่องเลยชวนป้าแหวงนอนที่นี่ไปก่อน ป้าแหวงผล็อยหลับไม่นานต้องสะดุ้งตื่นเพราะว่าไฟไหม้
ป้าแหวงยืนตัวสั่นเพราะไฟไหม้ห้องของตน ป้าแหวงรำพันถึงทรัพย์สินที่ไหม้ไม่นาน ก็เห็นรถตำรวจและวิชาพุ่งเข้าไปปากเรียดชื่อตน ใจจะขาดรอน และกลับมารัวอีกครั้งเมื่อเห็นวิชาออกมา ป้าแหวงปล่อยมือจากมันทนาวิ่งไปหาวิชา วิชาโผกอดแน่นร้องไห้โฮ ป้าแหวงสะกดใจรักของตนและพยายามสวมบทเป็นผู้ใหญ่ปลอบวิชา
“รอผมนะครับพี่ แล้วผมจะกลับมาหาพี่ครับ” วิชาจะกลับมาหรือเปล่าไม่รู้ แต่หัวใจรักของป้าแหวงสิ้นสุดการเดินทาง ณ ตรงนี้
- Ep.30 : 04.00 น. – สันทัดเห็นข่าวไฟไหม้ศาลตอนใกล้ตี 2 ตอนไปส่งเขาก็เห็นแต่ไม่ได้สนใจอะไร เพี่งจิตใจจดจ่อที่ได้ใช้เวลากับสาวที่แอบชอบในวันนี้ การที่บวชเรียนมาทำให้เขาเชื่อเรื่องกรรมและเชื่อว่าการเจอกับมีนาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขารู้สึกว่าขากลับมีนานั่งซ้อนอย่างวางใจมากขึ้น มีนายกแขนกอดสันทัดหลวมๆ พอถึงหน้าบ้านก็สบตากัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ แต่ก็เชื่อว่าจะได้พบหน้ากันอีก..
สันทัดรีบบึ่งมอไซต์ไม่คิดชีวิตหลังรู้ข่าว ได้แต่หวังว่ามีนาจะไม่เป็นอะไร ขณะที่กำลังอยู่ในผู้คนที่มุงดูเพลิงไหม้ ก็ได้ยินเสียงมีนาเรียกเขา มีนาแนะนำสันทัดให้นันทนารู้จัก แต่นันทนาไม่มีเวลาพิจารณามากนักเพราะรถดับเพลิงจะออกจากซอย ขณะกำลังจะกลับไปตั้งหลัก ก็ได้ยินเสียงเอะอะ จนท.ยกร่างไหม้เกรียมหงิกงอดำออกมาจากศาลเจ้า นั่นคือร่างเจ๊ศรี จนท.คลี่ผ้าขาวที่ห่อร่าง สันทัดคุกเข่าพนมมือ ปากขยับเหมือนพูดอะไรเบาๆ เจ้ศรีที่ไม่มีญาติคงหลับสบายและฝันว่าเฮียกงมารับจึงไม่ลุกหนีไฟออกมา หรือบางทีเจ๊ศรีอาจจะเลือกนอนหลับฝันดีไม่ต้องลืมตาดูโลกให้เหนื่อย แววตาของมีนาเต็มไปด้วยคำถาม สันทัดจึงบอกว่าเขาเคยบวชเรียนมา ทั้งหมดกลับไปตั้งหลักที่บ้านของนันทนาก่อน
.
- Ep.31 : 05.00 น. – สุขวิทย์พยายามดำเนินชีวิตปกติหลังออกจากโรงพยาบาล แต่รู้สึกว่าเสี้ยวชีวิตหนึ่งหายไปพร้อมแสงดาว จนวันหนึ่งเพื่อนของแสงดาวก็โทรมาหา สุวิทย์ได้รู้จากพรรณารายว่าแสงดาวตามพ่อไปหลบซ่อนที่เชียงใหม่ ใช้นามสกุลแม่และยึดอาชีพครูเรื่อยมา จนกระทั่งป่วยจึงอยากให้สุขวิทย์ดูแล แสงดาวจำสุวิทย์ไม่ได้เพราะอาการป่วย ในวันที่เจอกันจึงต้องเล่าความหลังพักใหญ่ หลังจากนั้นสุวิทย์ก็มาหาจนคุ้นเคยกันดี มีบางครั้งบางคราที่รู้สึกว่าแสงดาวจำเรื่องราวในอดีตได้
ขณะที่รำลึกอดีตนั้น สุขวิทย์ก็ได้ยินเสียงแสดงดาวเรียกจากด้านหลัง แสงดาวชวนคุยเหมือนบทสนทนาในวันนั้น เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมๆ กับมือที่ยื่นไป และกุมมือด้วยกัน ในเพลงที่คุ้นเคยของ Frank Sinatra “Moon River” เพลงจบลงสุขวิทย์พาแสงดาวมานั่งที่เดิม แล้วค่อยๆ อุ้มเธอไปนอน ห่มผ้า ยืนมองเธอครู่หนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงคนร้องเอะอะว่าไฟไหม้ สุขวิทย์ดูเหตุการณ์ห่างๆ เมื่อมั่นใจว่าไฟไม่ลามมาถึงบ้านลุงต่อจึงตัดสินใจนั่งลงบนแคร่หน้าบ้านลุงต่อ และปล่อยเวลาให้ผ่านไปจนใกล้สาง
.
- Ep.32 : 06.00 น. – ลุงต่อตื่นขึ้นเพราะมอมแมมาเลยที่มือ ทั้งสองเดินมาและหยุดนั่งที่หน้าศาลเจ้า ชวนมอมแมมไปอยู่ด้วยกัน แอบเห็นคนลุกขึ้นจากแคร่ นันทนาพาทุกคนเข้าไปในบ้านเข้าครัวทำอาหาร รวมทั้งคุยกับสันทัด มิเชล และป้าแหวง.. มิเชลเดินกอดกระเป๋าตามหลังสันทัดหลังจากทานข้าวเสร็จ สันทัดเดินต่อไปเพื่อขึ้นมอไซต์กลับ
ลุงต่อเห็นมิเชลก็ทักพร้อมชวนมาอยู่ด้วยกัน ชายสองคนเดินตามกันมาช้าๆ มีสุนัขตัวหนึ่งเดินตาม ชายคนหนึ่งรวบรวมกำลังใจขณะผลักประตู พร้อมเผชิญวันใหม่ด้วยใจที่เข้มแข็งและเปี่ยมรักดังเดิม ไม่ว่าเมื่อคืนจะจริงหรือฝันไปก็ตาม
“ดวงอาทิตย์ขึ้นฟ้าแล้วเหมือนเช่นวันก่อนและวันต่อๆ ไป” //จบ.
.
ขอให้สนุกและเตรียมรับมือความวุ่นวายในซอยคุณให้ดีๆ นะครับ 🙂
.
รายละเอียดหนังสือ
ผู้เขียน : งามพรรณ เวชชาชีวะ
จำนวนหน้า : 224 หน้า
ขนาดหนังสือ : 12 x 18 x 19 cm
สำนักพิมพ์ : Workpoint Publishing
ราคา : 184 บาท
Add a Comment
You must be logged in to post a comment