// ป.ล. บล็อกนี้เป็นการบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทวิตเตอร์ในช่วง 6-7 กรกฎาคม 2564
เคยไหม? ที่อยู่ดีๆ ศิลปินต่างชาติที่เราตามแมสในประเทศแบบงงๆ
ส่วนตัวเชื่อว่าเกิดขึ้นได้น้อยมากจนเป็นไปได้ยาก ส่วนใหญ่มักจะแมสหรือไวรัลแต่ศิลปินหรือค่ายก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เราอยากบันทึกไว้ว่าครั้งหนึ่ง ค่ายศิลปินต่างชาติจะสนใจสิ่งที่เกิดขึ้นและตอบรับกระแสอย่างรวดเร็วแบบนี้ด้วย!
ปูพื้นฐานเล็กน้อย
ต้องกล่าวกันก่อนว่า ไอดอลญี่ปุ่นนั้นถูก Underrate มานานพอสมควร ด้วยภาพจำที่ผิดๆ และการรับรู้ที่ผิดๆ (โดยเฉพาะจากเว็บม่วง) และด้วยความเข้าถึงยากในหลายๆ รูปแบบ ไม่รวมการปิดกั้น GEO-Blocking ที่หนาแน่น การสั่งของที่โกบอลไม่จริง ต้องส่งในญี่ปุ่นเท่านั้น รวมทั้งรายการต่างๆ ที่แทบไม่ส่งออกเลย หาดูยากไม่พอ ลิขสิทธิ์แรงด้วย /ฮา ทำให้ความนิยมค่อนข้างมีน้อยและเกือบจะเฉพาะกลุ่มไปเลย (โชคดีที่มีหลายท่านแปลและฝังซับไทยทำให้เรารู้เรื่องและตามทัน)
ตัดภาพมาประเทศข้างเคียงอย่างเกาหลีใต้ วัฒนธรรม K-Pop อันแข็งแกร่งและการส่งออกวัฒนธรรมที่สามารถตามง่ายเสพง่าย (แต่หลายๆ อย่างใช้โมเดลไอดอลจากทางฝั่งญี่ปุ่นมาใช้นะ เช่น ฝั่งญี่ปุ่นจะมี Private Mail ส่วนเกาหลีก็ปรับเป็นการส่งข้อความหรือบับเบิ้ลแทน เป็นต้น) และรายการที่สร้างปรากฎการณ์ในทุกแง่มุมอย่าง Produce 101 ก็เกิดขึ้นจากฝีมือของ Mnet โดยมีความเชื่อกันว่ารายการนี้ใช้โมเดลจากวง 48 Group มาปรับใหม่เป็นรูปแบบของเกาหลี ทั้งการติดตามการเติบโตจากวันแรกสู่การเป็นศิลปิน รวมทั้งการโหวตจัดอันดับที่มาจากการเลือกตั้ง (เซ็นบัตสึโซเซ็งเกียว) เป็นการโหวตเพื่อหาสมาชิกของวงบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ที่เป็นวงชั่วคราว จนซีซั่นที่ 3 ได้คอแลปกับต้นฉบับและดึงสมาชิก 48 Group ทั่วญี่ปุ่นไปแข่งขันด้วย พร้อมกับที่อากิพีเป็นโปรดิวเซอร์ไปด้วย ในชื่อรายการ Produce 48
แต่อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า PD ของ Mnet ใช้กระบวนการนี้ในการหาผลประโยชน์เกิดขึ้นในซีซั่นที่ 2-3 และมีการสลับตัวบางคนขึ้น ทำให้รายการต้องยุติไป ปิดตำนานรายการที่สร้างวงชั่วคราวที่ว่ากันว่าทำลายอุตสาหกรรม K-Pop ไปในที่สุด (ซึ่ง Mnet ก็ไม่หยุดการหาทำรายการเพื่อเดบิวต์วงชั่วคราว และแตกหน่อออกเป็น Girls Planet 999 ที่รวมเด็กฝึกจากเกาหลี, จีน, ญี่ปุ่น และรายการ Boys Planet ที่มีกำหนดออกอากาศในปีหน้า 2023)
แต่ความสำเร็จของรายการ Produce 101 ก็ทำให้ทุกช่องของเกาหลีต้องผลิตรายการเซอร์ไวเวิลค้นหาและเดบิวต์ศิลปินวงใหม่แข่งกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง รวมทั้งแตกหน่อในการขายลิขสิทธิ์รูปแบบรายการมายังต่างประเทศอย่างจีนอีกด้วย (ตามจริงประเทศไทยของเราก็จะได้สิทธิ์ในการผลิตฉบับไทยเหมือนกันนะ แต่ด้วยเสกลที่ใหญ่เกินแต่พื้นที่ในวงการเพลงบ้านเรายังเล็กเกินไปทำให้รายการไม่ได้ไปต่อ) รวมทั้งได้แตกหน่อยออกมายังประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการลงทุนของ CJ ENM เจ้าของสิทธิ์ของเกาหลี ร่วมทุนกับ Yoshimoto ของญี่ปุ่น คลอดออกมาเป็นรายการ ‘Produce 101 Japan’ ขึ้นมา โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 2 ซีซั่นแล้ว โดยได้ผลผลิตเป็น 2 วงด้วยกัน คือ JO1 และ INI นั่นเอง!


ความแตกต่างของ PD101 Japan กับ PD101 ประเทศอื่นๆ นั้น มี 2 ข้อหลักคือ 1. เด็กฝึกทั้งหมดเป็นเด็กฝึกอิสระ หากมีค่ายหรือเอเจนซี่จะต้องลาออกก่อนมาสมัครในรายการ และ 2. ผู้ชนะจากรายการนี้จะได้เป็นเม็มเบอร์วงถาวร ไม่ชั่วคราวเหมือนประเทศต้นฉบับนะ! ดังนั้นการชมรายการและการตามวงจากรายการ Produce 101 คุณจะได้สัมผัสความสนุกในความเป็นไอดอลญี่ปุ่น ผสมกับการฝึกและประเมินในแบบไอดอลเกาหลีที่เชื่อว่าคุณจะติดใจได้ไม่ยากเลย
ความแมสแบบงงๆ
อย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้นว่า พอบอกว่าไอดอลญี่ปุ่นแล้ว หลายคนก็จะไม่สนใจเท่าไรนักและเลื่อนผ่านไป ประกอบกับว่าพฤติกรรมการเล่น Twitter ของญี่ปุ่นเองนั้นที่เน้นกด Like แต่ไม่ Retweet (เชื่อกันว่าที่ไม่รีทวิตเพราะไม่อยากให้รกหน้าไทม์ไลน์ตัวเอง) ทำให้ยอดรีและยอด Engagement ของวงไอดอลและคอนเท็นท์ฝั่งญี่ปุ่นนี่หายากพอสมควร แตกต่างจากชาวเน็ตไทยแลนด์ที่รีไว้ก่อน อยากแชร์ให้ทุกคนเห็น (และรีทวิตไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยทั้งหมดด้วยนะ) ชอบจริงๆ ค่อยเฟบค่อยไลค์
ส่วนปรากฎการณ์นี้มันเริ่มต้นมาจากว่า คุณจินเจ้อซอย (@gingersoi_m) ได้ทวิตเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เกี่ยวกับความแตกต่างและการหลุดจักรวาลของฝั่ง Produce 101 Japan รวมทั้งการออกมาแถลงการณ์ว่ามีการตรวจสอบและไม่มีการสลับตัวอย่างแน่นอน พร้อมกับเธรดเล่าความยูนิคของผู้เข้าแข่งขันที่เป็นคนธรรมดามากๆ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน, พนักงานบริษัท หรือวิศวะกร ที่ต้องลาออกมาแข่งขัน และได้เดบิวต์ในรายการนี้
Produce101 japan นี่หลุดจักรวาลชาวบ้านสุดละ ตอนเค้ามีประเด็นชีก็รีบกระโดดตัวหนีเลยว่าไม่โกงจ้า กุไม่เอาด้วยนะ แล้วเด็กฝึกคือเรียลสุด ไม่ใช่เทรนนี่อะไรมาก่อน เป็นพนักงานบริษัท วิศวะ ช่างก่อสร้าง เด็กม.ปลาย พระ ลูกเศรษฐี จะภาษาดีหน่อยก็พวกแบคแดนซ์เซอร์เก่า อีห่ามาแข่งแบบอย่างเรียล
— จินเจ้อซอย (@gingersoi_m) July 4, 2022
หากเป็นทวิตอวดเมนหรือศิลปินคนอื่นๆ มันก็คงจะแมสแล้วก็ผ่านไปไม่มีประเด็นอะไรต่อ แต่ความพิเศษของทวิตดังกล่าวนี้คือ ทุกทวิตในเธรดนั้นมีการรีทวิตตามซึ่งทำให้คนให้ความสนใจมาก ซึ่งโดยปกติแล้วทวิตที่เกี่ยวกับรายการ PD101 มักจะมีทัวร์ลงมากกว่า แต่ด้วยความพิเศษและเหมือนเป็นอีกหนึ่งมัลติเวิร์สนี้นั้น ทำให้ได้รับความสนใจทั้งประเด็นผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ใช่เด็กฝึก อาชีพก่อนลาออกที่สร้างความประหลาดใจและน่าติดตามต่อ, การที่ดูรายการที่ไม่ได้มีความพิเศษที่หลายคนบอกว่าดูจะธรรมดาและแอบน่าเบื่อ เพราะผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนนั้นไม่ใช่เด็กเทรนเหมือนเกาหลี แล้วค่อยๆ พัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดดจนต้องประหลาดใจเหมือนดูอะนิเมะหรือมังงะโชเน็นเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ด้วยความแมสจากเหตุผลข้างต้น รวมทั้งหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทำให้แจมมินิ (JAM = ชื่อแฟนคลับของ JO1 / MINI = ชื่อแฟนคลับของ INI) ในไทยเปิดเธรดขายเม็มเบอร์และวงเป็นอย่างหนัก รวมทั้งการแนะนำซิลเกิล, คลิป, MV ที่จะสามารถตกคนอื่นๆ ที่ผ่านไปผ่านมาได้.. ซึ่งก็ยิ่งทำให้ขับเคลื่อนความแมสไปเพราะ JO1 และ INI นั้นถือว่าทำลายภาพจำของหลายๆ คนที่มองว่าไอดอลญี่ปุ่นไม่เน้น Performance และดูน่าเบื่อ กลายเป็นโดนตกเพราะ Performance ที่เท่และพร้อมเพรียงในทุกเพลง รวมทั้งเพลงต่างๆ ของทั้งสองวงที่มันความผสมผสานระหว่าง J-POP และ K-POP อย่างลงตัว และคอนเท็นท์ที่มีจำนวนมากใน YouTube อีกทั้งไม่รวมกับคอนเท็นท์จากฝั่ง CJ ที่ดึงทั้งสองวงไปเกาหลี อย่างคอนเท็นท์ Studio CHOOM / KCON และการออกในรายการ M Countdown อีกด้วย ทั้งหมดเป็นตัวช่วยผลักดันให้การขายครั้งนี้ปังจนเกินคาดคิด และมียอดรีทวิตที่เกิน 40K อย่างรวดเร็ว และส่งผลให้แฟนคลับของวงอื่นๆ ที่มีสมาชิกที่เข้าแข่งขันในรายการนี้ได้พื้นที่ในการโปรโมทวงของตัวเองครั้งนี้ไปด้วย
ความแมสจากการชอบรีทวิตของคนไทยนี้ ทำให้หลายคนไปฟังเพลงของทั้งสองวงต่อใน Spotify และมีการค้นหาที่เพิ่มขึ้น จนแฟนญี่ปุ่นที่เก็บสถิติตกใจกับยอดที่เพิ่มมาเกือบเท่าตัว ทำให้แจมญี่ปุ่นร่วมด้วยช่วยกันขายวงต่อในวันที่ 5 กรกฎาคม พร้อมตั้งแฮชแท็ก #อยากให้ประเทศไทยรู้JO1 และ #タイに届いて欲しいJO1 เพื่อขาย JO1 ในฉบับญี่ปุ่น และฉบับไทยที่แปลจาก Google Translate และหลังจากนั้นมินิญี่ปุ่นก็ขอตามมาแจมด้วยกับแท็ก #ฉันต้องการเผยแพร่INI เพื่อขายวง INI ไปด้วยกัน..
แต่ความพีคก็ยังมีต่อหลังจากนี้.. เมื่ออยู่ดีๆ Official Account ของวง INI ก็ทวิตภาษาไทยขึ้นมา! ทวิตโดยริฮิโตะ (Ikezaki Rihito / 池﨑 理人) บอกว่า “Brighter เป็นเพลงที่ไพเราะมาก โปรดฟัง”.. เล่นเอาไทม์ไลน์ฝั่งไทยตกใจกันถ้วนหน้า [ชม MV เพลง Brighter ที่นี่]
[#池﨑理人]
— INI (@official__INI) July 5, 2022
Brighter เป็นเพลงที่ไพเราะมาก โปรดฟัง❣️#INI #IKEZAKIRIHITO pic.twitter.com/z77HiGxraR
หลังจากนั้นในช่วงค่ำ ก็มีการเปิด Space โดยคุณ Oreka (@OrekaShion) ที่ชวนแจมทั้งไทยและญี่ปุ่นคุยกันสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ซึ่งเสปซนี้ก็อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยสปีกเกอร์หลากหลายท่าน และผู้ฟังมากกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งมีคนพบเจอว่าเมเนเจอร์ของวงก็แอบมาฟังด้วย
Space Now🫶🏻💗https://t.co/gesk7hgX6C
— Oreka👽 (@OrekaShion) July 5, 2022
ซึ่งในระหว่างเสปซอยู่นั้น โยชิโมโต้ไทยเหมือนรับรู้ได้ถึงความแมส จึงมีการ Quote RT และถามลอยๆ ว่า จะมีโอกาสมาไทยมั้ยนะะ? แน่นอนว่าแฟนไทยก็อยากให้มาอยู่แล้ว หลังจากต้องดูผ่านจอตั้งแต่เดบิวต์จนถึงวันนี้และเฝ้ารอโอกาสที่จะได้เจอ JO1 ตัวจริง ซึ่ง Yoshimoto ก็ทวิตว่าน้อมรับฟีดแบคและจะส่งต่อให้กับทางญี่ปุ่นรับทราบน้าา
Produce 101 Japan คนสนใจเยอะขนาดนี้
— Yoshimoto (Thailand) (@Yoshimoto_TH) July 5, 2022
JO1 จะมีโอกาสมาไทยมั้ยน้า~🤔#JO1 https://t.co/et95nZzwXt
เข้าสู่วันที่ 6 กรกฎาคม ถึงแม้ทวิตต้นทางจะไม่ได้มีการรีทวิตที่รวดเร็วมากเท่าช่วงแรก แต่กระแสการขายเมนก็ยังมีมาเรื่อยๆ รวมทั้งการที่แจมไทยและญี่ปุ่นก็กระชับมิตรในการขายวงผ่านแท็กที่ตั้งขึ้นใหม่.. ช่วงเที่ยงก็ปล่อยเซอร์ไพรส์เด็ดที่ทำให้แจมไทยหลายคนต้องหลั่งน้ำตา เพราะเป็นการทวิตภาษาไทยจาก Official Account ที่แนบวิดีโอซับไทย แท็กที่แจมญี่ปุ่นตั้งให้แบบภาษาไทย พร้อมข้อความที่บอกว่า “อยากเจอแฟนๆชาวไทยทุกๆคนเร็วๆแล้วครับ” อีกด้วย!
สวัสดีครับ พวกเรา JO1
— JO1 (@official_jo1) July 6, 2022
จากรายการ PRODUCE 101 JAPAN ครับ!
ตอนนี้พวกผมก็สนิทกันดีครับ!
อยากเจอแฟนๆชาวไทยทุกๆคนเร็วๆแล้วครับ🥰#JO1 #อยากให้ประเทศไทยรู้JO1 pic.twitter.com/xNOKMwpEFh
หากถามว่าพีคขนาดไหนหรอ.. ก็พีคจนสำนักข่าว Modelpress เอาไปทำข่าวด้วยน่ะสิ
JO1、タイでのバズりに反応 “日プ絶賛投稿”きっかけにファンが布教活動開始
— モデルプレス (@modelpress) July 6, 2022
▼記事詳細・写真はこちらhttps://t.co/7PVlCKbXYI@official_jo1 #タイに届いて欲しいJO1 #อยากให้ประเทศไทยรู้JO1
แล้ว JO1 ก็ไม่ทำให้หัวใจของแจมหยุดเต้นแรง เพราะจุนกิ (Kono Junki / 河野 純喜) ก็ปล่อยรูปหัวแดงของตนเองที่คว้าใจแจมไทย แจมญี่ปุ่น และแฟนเกาหลี (ช่วงที่มีการโปรโมทในรายการ M Countdown ในเกาหลี) พร้อมทวิตข้อความภาษาไทยให้หัวใจเต้นแรงจนเก็บไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว
[#河野純喜]
— JO1 (@official_jo1) July 6, 2022
สบายดีมั้ยครับ?
คุณคนผมแดง!
ครับ! สบายดีครับ🎶#JO1 #KONOJUNKI pic.twitter.com/weiW2Z7O1W
ปิดท้าย
สำหรับเหตุการณ์และปรากฎการณ์ข้างต้นเป็นตัวอย่างที่ดีที่ค่ายเพลงต่างชาติลงมาเล่นกับกระแสของแฟนคลับต่างชาติ ซึ่งพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก (ส่วนใหญ่ขนาดจะมาเล่นที่ประเทศไทยก็ยังทวิตภาษาต้นทางเองด้วยหากไม่ได้มาจากทวิตของผู้จัดเอง) ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อศิลปิน – ค่าย – แฟนคลับ ให้เกิด Fan Loyalty ที่สูงมากขึ้นเพราะถือว่าเป็นการรับฟังเสียงของแฟนคลับ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเอนเกจเมนท์ที่ดีกับแฟนคลับต่างชาติอีกด้วย
หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใน 3 วันนี้จะทำให้ค่ายอื่นๆ ที่เฝ้ามองอยู่นั้นเกิดความเปลี่ยนแปลงในการสนใจแฟนคลับต่างชาติมากขึ้น และเช่นกันว่า LAPONE ต้นสังกัดของทั้งสองวงนั้นก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกมากในการเก็บฐานแฟนคลับต่างชาติจากระบบแฟนด้อมของญี่ปุ่นที่ต้องใช้ความพยายามมากพอสมควร หวังว่าการทวิตภาษาไทยในครั้งนี้จะทำให้เกิดความปรับปรุงภายในและทำให้ศิลปินภายใต้การดูแลทุกวงสามารถก้าวสู่ระดับโลกได้เช่นกัน